พัคมินยอง, อีซึงกิ, ยุนยอจอง กับประเด็นยักยอกเงิน-ถูกเอาเปรียบจากสังกัด 25/11/2022 Hailey Martinez ภายหลังประเด็นร้อนที่สำนักข่าวประเทศเกาหลีเจ้าใหญ่อย่าง Dispatch ออกมาเปิดโปงว่า อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง นักแสดง และพิธีกรมีชื่อ ไม่ได้รับเงินอะไรก็ตามจากการทำเพลงตลอด 18 ปี ให้กับต้นสังกัด Hook Entertainment ชาวเน็ตเริ่มขุดคุ้ยถึงปัญหาในการทำงานของค่ายนี้ และติชมถึงความโปร่งใส สำหรับการบริหารงาน หลังจากถูกตำรวจซักถามข้อกล่าวหายักยอกและฉ้อโกง รวมทั้งพฤติกรรมของซีอีโอของบริษัทที่เข้าข่าย “gaslighting” หรือการเอารัดเอาเปรียบอีกฝ่ายด้วยคำพูดและการกระทำ ที่ไม่มีค่าอีกฝ่าย หรือหลอกลวงอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ พัคมินยอง (Park Min Young) ดาราสาวในสังกัด Hook Entertainment มีข่าวสารว่า เคยคบดูใจกับนักธุรกิจเศรษฐีชื่อ “คัง” นอกเหนือจากคุณคังจะเป็นเจ้าของบริษัท Vidente ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท Bithumb Holdings แล้ว คุณคังยังมีความเชื่อมโยงอันสนิทสนมกับบริษัท Chorokbaem Media ที่เข้าซื้อกิจการของบริษัท Hook Entertainment ที่เป็นต้นสังกัดของพัคมินยองอีกด้วย เมื่อวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าออฟฟิศของ Hook Entertainment เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับการสืบสวนคดี ยักยอกทรัพย์ของบริษัท และมีแนวโน้มว่า การยักยอกทรัพย์ของบริษัทจะมีความเชื่อมโยงกันกับคุณคัง แฟนเก่าของสาวพัคมินยองด้วย ทางด้านของ อีซึงกิ สำนักข่าว Dispatch รายงานว่า เขาจัดแจงทนายเพื่อเรียกหาหลักฐานสำหรับการบริหารงานและรายได้จากการทำงานของเขาอย่างโปร่งใส เมื่อเขาทราบว่าเขาไม่ได้รายได้ที่ควรได้รับจากการทำงานเพลงตลอดเวลา 18 ปี นอกจากนี้เขายังถูกใช้คำพูด และอารมณ์รุนแรงจากซีอีโอของบริษัท รวมทั้งพฤติกรรมอยู่ในข่าย gaslighting จากบริษัทที่มักพูดว่าเขาเป็น “minus singer” หมายถึง เป็นนักร้องที่ไม่ทำเงิน ไม่ทำเงินให้กับบริษัท ทำให้บริษัทขาดทุน โดยบริษัทมักบอกเขาว่า เพลงของเขาขายไม่ได้ ไม่สร้างรายได้หรือกำไรให้กับบริษัทนั่นเอง วันที่ 17 เดือนพฤศจิกายน ยุนยอจอง (Youn Yuh Jung) ดาราสาวฉายา Meryl Streep ประเทศเกาหลี ที่เคยครอบครองรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Minari มีกระแสข่าวลือว่า คุณจัดแจงออกจาก Hook Entertainment แต่ว่าภายหลังข่าวสารออกไปไม่นาน ด้านในวันเดียวกัน Hook ก็รีบชี้แจงเพื่อยืนยัน โดยทันทีว่า สัญญากับยุนยอจองยังไม่หมด และข่าวลือที่ว่า ยุนยอจองจะออกจากบริษัทนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็แล้วแต่ ชาวเน็ตหยิบยกประเด็นพฤติกรรม gaslighting ที่ยุนยอจองอาจเคยพบเห็นโดยไม่รู้สึกตัวจากบริษัทเหมือนที่อีซึงกิเคยโดน จากคลิปสัมภาษณ์รายการวาไรตี้ของช่อง SBS ในหัวข้อที่ว่า เธอไม่รับงานพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์หรูต่าง ๆ โดยเธอกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่รับงานพรีเซนเตอร์ แต่เขา (แบรนด์) ไม่ได้ยื่นข้อเสนอให้ฉันเอง เพราะถ้าคนแก่มาใส่เสื้อผ้าเขา คนคงบอกว่า ‘ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย’ แล้วก็ไม่ยอมซื้อของเขาน่ะสิ ฉันก็เลยซื้อเสื้อผ้าใส่เองทุกชิ้น” โดยชาวเน็ตบอกว่า ประโยคนี้ของเธอเหลือเชื่อมาก ๆ เพราะชื่อเสียงของเธอมีชื่อเสียงมาก ๆ จนกระทั่งคนจำนวนไม่น้อยเทียบว่าเธอคือ Meryl Streep ประเทศเกาหลี ได้รับรางวัลออสการ์ และยังเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมจากชาวประเทศเกาหลีเป็นอย่างมากจาก Unexpected Journey รายการทีวีที่เธอดำเนินรายการเอง ทำให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ไม่มีวันที่เธอจะไม่ได้รับข้อเสนอให้เป็นพรีเซนเตอร์จากแบรนด์ใด ๆ เลย และบริษัทอาจกำลังเอารัดเอาเปรียบเธออยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัว ระหว่างนี้ Hook Entertainment ไม่มีคำแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นถูกต้องสงสัยว่า ยักยอกทรัพย์ เรื่องรายได้จากงานเพลงของอีซึงกิ รวมทั้งพฤติกรรม gaslighting ต่อดาราในสังกัดที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงแต่อย่างใด Hook Entertainment มีนักแสดง นักแสดง และเอนเตอร์เทนเนอร์ในสังกัดมากมาย อาทิ อีซุนฮี (ฉายานักร้องแห่งชาติเกาหลี) อีซึงกิ พัคมินยอง ซอบอมจุน อีซอจิน ยุนยอจอง และ ชเวกยูริ “อีซึงกิ” จัดแจงฟ้องค่าย หลังจากไม่เคยได้เงินจากค่าทำเพลงตลอด 18 ปี อีซึงกิ (Lee Seung Gi) นักร้อง-นักแสดงมีชื่อของเกาหลีใต้ จัดแจงส่งทนายฟ้องต้นสังกัด Hook Entertainment หลังจากเรียกร้องหาหลักฐานแสดงรายได้ของเพลงกว่า 137 เพลง 27 อัลบั้ม ตลอด 18 ปีของการเป็นศิลปินของเขา เมื่อวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน อีซึงกิ เผยว่า ได้ยื่นคำเรียกร้องขอหลักฐานแสดงรายได้และรายจ่ายทั้งหมดจากการทำเพลงของเขาตลอดเวลา 18 ปี สำหรับการเป็นศิลปินในค่ายเพลง Hook Entertainment ภายหลังที่ Hook Entertainment ถูกตำรวจสอบสวนข้อหายักยอก และฉ้อโกง เมื่อวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางด้าน Hook Entertainment ออกมาตอบโต้ว่า ทางต้นสังกัดรับรู้คำเรียกร้องของอีซึงกิแล้ว ทางค่ายจะพยายามแก้ไขปัญหานี้ไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิด อย่างไรก็แล้วแต่ สำนักข่าว Dispatch ออกมาเปิดเผยว่า อีซึงกิ ไม่ได้รับเงินที่เป็นรายได้จากการทำเพลงให้กับ Hook Entertainment เลยสักวอนเดียวตลอดเวลา 18 ปีสำหรับการเป็นศิลปิน ทั้งที่เป็นเจ้าของผลงานเพลงทั้งหมด 137 เพลงจาก 27 อัลบั้ม อีซึงกิ มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินตั้งแต่ปี 2004 ที่เขาเดบิวต์ เพลงของเขาถูกใช้เป็นเสียงเรียกเข้า และเสียงรอสายโทรศัพท์ และเพลง background ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่างสูงขณะนั้นอย่าง Cyworld มากมาย ตั้งแต่ตุลาคม ปี 2009 จนกระทั่งก.ย. ปี 2022 รายได้จากเพลงของอีซึงกิมีมูลค่ามากถึง 9.6 พันล้านวอน หรือราว ๆ 256 ล้านบาทอย่างยิ่งจริง ๆ ในหลักฐานแสดงรายได้จากเพลงของอีซึงกิที่ Dispatch ได้มา ในช่องที่แสดงรายได้ในตอนเดือนมิถุนายน ปี 2004 ถึงเดือนสิงหาคม ปี 2009 หายไป จึงทำให้ไม่สามารถรู้จำนวนรายได้ที่ชัดเจน ตอนนั้น ที่อีซึงกิมีเพลงตามที่เป็นที่รู้จักทั่วทั้งประเทศ อย่าง เพลงBecause You’re My Woman และ “Delete” ที่ปล่อยมาในปี 2004 เพลง “Please” และ “Hard to Say” ที่ปล่อยในปี 2006 เพลง “I’ll Give You All” และ “Let’s Go on a Vacation” ที่ปล่อยปี 2007 และเพลง “Will You Marry Me” ที่ปล่อยในปี 2009 ตามข้อสัญญาที่อีซึงกิได้เซ็นไว้กับค่าย จริง ๆ แล้วอีซึงกิจะต้องได้รับเงิน 60% จากยอดขายเพลงตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2016 (6.5 พันล้านวอน หรือกว่า 173 ล้านบาท) และเพิ่มเป็น 70% ในตอนปี 2017-2022 (2.9 พันล้านวอน หรือกว่า 77 ล้านบาท) หมายความว่าจริง ๆ แล้ว เขาจะต้องทำเงินได้ 5.8 พันล้านวอน หรือเกือบจะ 155 ล้านบาท ยังไม่รวมรายได้ 5 ปีที่หายไปในหลักฐานแสดงรายได้ด้วย นอกจากนี้ อีซึงกิ ยังมีข้อพิพาทกับซีอีโอของ Hook Entertainment หลังจากเขาทราบเรื่องจากผู้จัดการของเขาว่า ซีอีโอของ Hook แสดงอารมณ์โมโหภายหลังที่ฝ่ายเขาพยายามเรียกขอหลักฐานการรับรองด้านการจัดการสิทธิ์การใช้งานเพลงของเขาในคอนเทนต์ต่าง ๆ และทางซีอีโอยังบอกอีกว่า ตัวเขาเองขอเอาชื่อและชีวิตเป็นเดิมพันว่า จะขอฆ่าอีซึงกิแบบไม่ให้พลาดแน่นอน แต่ว่าจนแล้วจนรอดผ่านไปราว ๆ 1 ปี เขาก็ยังไม่ได้บทสรุปจากค่ายต้นสังกัด ทางอีซึงกิจึงขอดำเนินเรื่องต่อผ่านกฎหมายและทนายส่วนตัวต่อไป อีซึงกิ ระบุว่า “มันน่าเสียใจมาก ๆ ที่ผมผู้ทำงานอย่างหนักมาตลอด 37 ปีต้องมาถูกมองอย่างด้อยค่าและถูกด่าเหมือนเด็กมัธยมอายุ 18 ปี ต่อไปผมจะพูดผ่านตัวแทนฝ่ายกฎหมายของผมแทน ขอบคุณสำหรับความเข้าใจ และผู้จัดการคิมของผม รวมถึงผมด้วย ทำงานอย่างหนักเพื่อ Hook มาโดยตลอด ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะกระทำสิ่งเหล่านั้นกับผู้จัดการคิม” “ผม อีซึงกิ ครอบครัวของอีซึงกิ ผู้จัดการของอีซึงกิ และคนรู้จักของอีซึงกิ ทั้งหมดนี้ถูกเมินเฉยจากซีอีโอควอนจินยองมาโดยตลอด ผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ของผมถูกเมินเฉยอีกต่อไป ถ้าซีอีโอยังกล้าพูดจาหยาบคายหรือข่มขู่ผม นั่นอาจหมายความว่าผมอาจเป็นดาราไม่ได้แล้ว ก็ขอให้เป็นโชคชะตาของผมแต่เพียงผู้เดียว ผมไม่อยากให้เรื่องนี้มันแย่ไปกว่านี้ ต่อไปนี้กรุณาติดต่อหาผมผ่านทนายของผมด้วย”